คำถามที่พบบ่อยสำหรับระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล

ระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจะจัดพื้นที่ที่มีการป้องกันด้วยรหัสผ่านสำหรับจัดเก็บไฟล์ที่เป็นความลับของคุณ เมื่อคุณรายงานว่าคอมพิวเตอร์สูญหายหรือถูกขโมย ระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจะปิดผนึกตนเองโดยอัตโนมัติ โดยจะบล็อกการเข้าใช้งานข้อมูลทุกอย่างที่อยู่ในระบบ แม้ว่าบุคคลอื่นจะมีรหัสผ่านที่ถูกต้องก็ตาม

ระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลใช้อัลกอริทึม Advanced Encryption Standard (AES) ขนาด 128 บิต ในการป้องกันไฟล์ให้ปลอดภัย การเข้าถึงไฟล์จะต้องใช้เครื่องมือการถอดรหัสขั้นสูงเท่านั้น และจะต้องใช้เวลาพอสมควร ความปลอดภัยของคุณยังขึ้นอยู่กับความเข้มงวดของรหัสผ่านของคุณ คุณจึงต้องเลือกรหัสผ่านที่ไม่สามารถคาดเดาได้ง่ายจนเกินไป

การให้ข้อมูลที่อยู่อีเมลและรหัสผ่านเพื่อเริ่มต้นการทำงานของระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจะช่วยปกป้องเนื้อหาและช่วยให้คุณกู้คืนรหัสผ่านได้ในกรณีที่ลืมรหัสผ่าน

คุณสามารถเข้าถึงระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยดับเบิลคลิกที่ไอคอน ระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลบนเดสก์ท็อปของ Windows ในกรณีที่ถูกล็อก ระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจะขอรหัสผ่านจากคุณ

คลิกขวาที่ไอคอน ระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล บนเดสก์ท็อป และเลือกตัวเลือกที่ต้องการ คุณจะต้องใช้รหัสผ่านในการปลดล็อกระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล

คุณอาจต้องการใช้ระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลในการป้องกันไฟล์เหล่านี้

• สำเนาใบเสร็จทางออนไลน์ที่อยู่ในเครื่อง หรือข้อความยืนยันจากการสั่งซื้อทางออนไลน์

• รายการรหัสผ่าน

• ไฟล์ที่เป็นความลับทางธุรกิจ

• ไฟล์ที่มีข้อมูลส่วนบุคคล

คุณสามารถเรียกดูรหัสผ่านของคุณได้โดยใช้ที่อยู่อีเมลที่ให้ไว้ในขณะตั้งค่าระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล ในการเข้าถึงระบบการเรียกดูรหัสผ่าน ให้คลิกขวาที่ไอคอนระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลบนเดสก์ท็อป แล้วเลือก เปิด หรือ ปลดล็อกระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล และคลิกลิงก์ เรียกดูรหัสผ่านของคุณตามอีเมล ในหน้าต่างที่เปิดอยู่

Trend Micro จะส่งรหัสผ่านโดยอัตโนมัติไปยังที่อยู่อีเมลที่ให้ไว้ในขณะที่คุณตั้งค่ารหัสผ่าน โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณสามารถเข้าถึงบัญชีนั้นได้ หากคุณใส่ที่อยู่อีเมลไม่ถูกต้อง ผู้อื่นอาจได้รับรหัสผ่านของคุณแทน

คุณควรเก็บรหัสผ่านของคุณเป็นความลับเพื่อให้แน่ใจว่าไฟล์ของคุณจะปลอดภัย หากผู้อื่นทราบรหัสผ่านของคุณ ให้เปลี่ยนรหัสผ่านในทันที

ในการแก้ไขรหัสผ่าน ให้เปิดคอนโซลหลักของซอฟต์แวร์ความปลอดภัย คลิกปุ่ม การตั้งค่า ขยาย การตั้งค่าอื่นๆ แล้วเลือก รหัสผ่าน

หากต้องการเลือกรหัสผ่านที่ผู้อื่นสามารถคาดเดาได้ยาก ให้ทำตามคำแนะนำด้านล่าง

• รหัสผ่านที่ยาวกว่าจะคาดเดาได้ยากกว่า

• หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อหรือคำที่มีในพจนานุกรม หากใช้คำทั่วไป ให้ใช้อักขระแทนเสียงที่ตรงกันเพื่อให้คาดเดาได้ยาก เช่น คุณอาจใช้ "l8" แทนคำว่า "late" หรือ "f@st_t@lk3r" แทนคำว่า "fast talker"

• ใช้ตัวอักษร ตัวเลข และอักขระอื่นๆ ผสมกัน

• หลีกเลี่ยงรูปแบบที่คาดเดาง่าย เช่น "101010" หรือ "abcde"

หากต้องการแก้ไขที่อยู่อีเมลสำหรับรับการเตือนเกี่ยวรหัสผ่าน ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่าง

1. เปิดคอนโซลหลักของซอฟต์แวร์ความปลอดภัย คลิกปุ่ม การตั้งค่า

2. ขยาย การตั้งค่าอื่นๆ แล้วเลือก รหัสผ่าน

3. คลิกลิงก์ เปลี่ยนที่อยู่อีเมล แล้วใส่รหัสผ่านปัจจุบันของคุณ และที่อยู่อีเมลใหม่ที่คุณต้องการใช้

Trend Micro ได้ออกแบบระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลไว้สำหรับการจัดเก็บไฟล์และโฟลเดอร์ คุณสามารถคัดลอกและย้ายไฟล์ไปยังระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลได้เช่นเดียวกับที่ใช้งานโฟลเดอร์อื่นๆ ของ Windows อย่างไรก็ตาม ระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลแตกต่างจากโฟลเดอร์ทั่วไปของ Windows เล็กน้อย ดังรายละเอียดต่อไปนี้

• การลากไฟล์หรือโฟลเดอร์ไปยังระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการ ย้าย ไฟล์ ไม่ใช่การคัดลอก แม้ว่าคุณจะกดปุ่ม CTRL ค้างไว้ขณะที่คลิกเลือกไฟล์ก็ตาม

• เวลาลากไฟล์หรือโฟลเดอร์ออกจากระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล สำเนาสำรองของไฟล์จะยังคงอยู่ในระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล

• คุณไม่สามารถสร้างไฟล์ใหม่ในระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยตรง แต่สามารถย้ายหรือคัดลอกไฟล์ใหม่ที่สร้างขึ้นจากที่อื่นมายังระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลได้

• คุณไม่สามารถคลิกและลากไฟล์ที่อยู่ในระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลอยู่แล้วมาไว้โดยตรงในโฟลเดอร์ซึ่งถูกจัดเก็บไว้ภายในระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลด้วย

ได้ คุณสามารถเปิดไฟล์ที่เก็บอยู่ในระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยตรง

หากคุณมีไฟล์ที่เปิดค้างอยู่ในระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลขณะที่ระบบถูกล็อก เพียงป้อนรหัสผ่านของระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล แล้วค่อยบันทึกไฟล์นั้นอีกครั้ง

คุณสามารถสร้างโฟลเดอร์ในระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยตรง แต่ไม่สามารถสร้างไฟล์ได้ เมื่อใช้งานไฟล์ที่เป็นความลับเสร็จ ให้ย้ายไฟล์ดังกล่าวไปยังระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ที่เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกันโดยใช้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านอื่นจะไม่สามารถเข้าถึงระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลได้

หากคอมพิวเตอร์สูญหายหรือถูกขโมย ให้ปิดผนึกระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลผ่านบริการรายงานการถูกขโมยทันที ในการใช้บริการ คุณต้องใช้ที่อยู่อีเมลและรหัสผ่านที่ให้ไว้ในขณะเริ่มการทำงานของระบบ หลังจากที่คุณแจ้งว่าคอมพิวเตอร์สูญหาย ระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่ปรากฏบนเดสก์ท็อปและจะปิดผนึกตนเอง ผู้อื่นจะไม่สามารถเปิดระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกปิดผนึกได้จนกว่าคุณจะรายงานว่าพบคอมพิวเตอร์ที่สูญหายแล้ว

หากมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจะติดต่อกับ Trend Micro อย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบสถานะของคอมพิวเตอร์ของคุณ หากคุณรายงานว่าคอมพิวเตอร์ของคุณสูญหายหรือถูกขโมย ระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่ปรากฏบนเดสก์ท็อปและปิดผนึกตนเองทันทีเมื่อระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินการตรวจสอบครั้งต่อไป

เมื่อคุณเริ่มการทำงานของคอมพิวเตอร์ใหม่ ระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกล็อกเพื่อป้องกันข้อมูลของคุณ นอกจากนี้ ระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกล็อกในกรณีที่คอมพิวเตอร์ของคุณกลับมาทำงานหลังจากเข้าสู่โหมดโปรแกรมรักษาหน้าจอ

คุณต้องแจ้งว่าพบคอมพิวเตอร์แล้วผ่านบริการ Report Stolen ระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจะตรวจสอบบริการนี้อย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบสถานะคอมพิวเตอร์ของคุณ ระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจะปรากฏขึ้นบนเดสก์ท็อปของ Windows อีกครั้ง และเปิดผนึกตนเองโดยอัตโนมัติเมื่อคุณแจ้งว่าได้คอมพิวเตอร์คืนมาแล้ว หลังจากที่เปิดผนึกแล้ว ระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจะยังคงล็อกอยู่จนกว่าคุณจะใส่รหัสผ่านที่ถูกต้อง

คุณไม่สามารถลบไอคอนของระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลออกจากเดสก์ท็อปได้ แต่คุณสามารถลบโฟลเดอร์ของระบบดังกล่าวได้ด้วยวิธีอื่น การลบโฟลเดอร์ของระบบป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจะเป็นการลบไฟล์ที่ได้รับการป้องกันทั้งหมดที่อยู่ภายในด้วย